อุตสาหกรรมเหล็กไทยวิกฤต เจอทรัมป์รีดภาษี-จีนทุ่มตลาด, วอนรัฐช่วย

24 มีนาคม 2568
อุตสาหกรรมเหล็กไทยวิกฤต เจอทรัมป์รีดภาษี-จีนทุ่มตลาด, วอนรัฐช่วย

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ผู้ผลิตเหล็กของไทยกำลังเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มมาตรการปกป้องอุตสาหกรรม หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก ซึ่งจุดชนวนความกังวลทั่วโลกเกี่ยวกับปริมาณเหล็กส่วนเกินที่อาจถูกระบายไปยังตลาดอื่น

ปธน.ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก 25% เมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ ซึ่งสร้างความวิตกให้กับผู้ผลิตเหล็กทั่วโลกที่เผชิญกับการทะลักของเหล็กส่งออกจากจีนอยู่แล้ว โดยกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กของไทยเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผู้ผลิตในประเทศมากขึ้น

“เราหมดหนทางแล้ว และรัฐบาลคือความหวังเดียวของเรา” พงศ์เทพ เทพบางจาก รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวให้สัมภาษณ์ที่กรุงเทพฯ พร้อมระบุด้วยว่า อุตสาหกรรมเหล็กไทย “อยู่ในสถานการณ์วิกฤตอยู่แล้ว จากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ซบเซา การบริโภคที่อ่อนแอ และอุปทานราคาถูก”

นายพงศ์เทพกล่าวว่า ผู้ผลิตเหล็กในประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่อันดับ 4 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้หารือกับรัฐบาลเกี่ยวกับการเพิ่มมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อจำกัดการนำเข้า โดยไทยเป็นหนึ่งในลูกค้าเหล็กรายใหญ่ของจีน ด้วยปริมาณการนำเข้ามากกว่า 5 ล้านตันในปีที่แล้ว

ทั้งนี้ แรงต่อต้านเหล็กส่งออกจากจีนที่เพิ่มมากขึ้นกำลังสร้างแรงกดดันให้กับอุตสาหกรรมเหล็กของจีน ซึ่งมีการคาดการณ์ในเดือนนี้ว่ารัฐบาลอาจสั่งจำกัดการผลิต โดยเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P Global Ratings) ระบุว่า การส่งออกเหล็กจากจีนอาจลดลงมากถึง 20% ปีนี้ เนื่องจากอุปสรรคทางการค้าที่เพิ่มขึ้น


แหล่งที่มา : อินโฟเควสท์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.